เพย์โหลดของการตั้งค่าไคลเอนต์ TE จะส่งพารามิเตอร์การจำลองไปยังไคลเอนต์ TE ที่ติดตั้งในอุปกรณ์อัจฉริยะ พารามิเตอร์การจำลองจะเป็นแบบรวม (ไม่เฉพาะเจาะจงโฮสต์) ดังนั้น คุณเพียงแค่ส่งเพย์โหลดหนึ่งอันของชนิดนี้ไปยังอุปกรณ์แต่ละอัน
เพย์โหลดของการกำหนดค่าการตั้งค่าไคลเอนต์ TE มีตัวเลือกต่อไปนี้:
ป้อนคีย์สลับ |
ใช้แป้น Enter เป็นส่งแทนที่จะเป็นการออกจากช่อง ตัวเลือกนี้ไม่มีผลกับแป้นในแป้นพิมพ์เสมือน TE |
เปิดใช้งานเคอร์เซอร์อิสระ |
อนุญาตให้ผู้ใช้เคลื่อนย้ายเคอร์เซอร์ไปยังพื้นที่ที่ได้รับการป้องกันของหน้าจอหลังจากที่พวกเขาใช้แป้นพิมพ์ในการสลับเปิดปิดโหมดเคอร์เซอร์อิสระ |
การสแกนเกินขนาด |
ระบุสิ่งที่จะทำหากข้อมูลที่สแกนมีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับช่องรายการ |
ลองเวิร์คสเตชั่น ID ใหม่ |
อนุญาตให้ไคลเอ็นต์ลองเวิร์คสเตชั่น ID ใหม่อีกครั้งด้วยตัวอักษรที่เติมอยู่ข้างหลัง |
ใช้ Enter เป็นการรีเซ็ต |
ใช้แป้น Enter เป็นแป้นรีเซ็ตหากจุดเชื่อมต่ออยู่ในสถานะที่ผิดพลาด |
สถานะ Caps Lock เบื้องต้น |
ตั้งค่าแป้นพิมพ์ในการเปิดใช้งาน Caps lock เมื่อเปิดใช้งาน |
บรรทัดของข้อความโฮสต์ (Android เท่านั้น) |
กำหนดแถวหน้าจอที่มีข้อความโฮสต์ ค่า 0 จะเพิกเฉยต่อข้อความโฮสต์ หากค่าที่ระบุมากกว่าจำนวนของบรรทัดของข้อความโฮสต์ บรรทัดจะถูกลดจำนวนลงสามบรรทัด ตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งค่านี้เป็น 27 จากนั้นสลับเป็นหน้าจอ 80x24 ค่าจะกลายเป็น 24 |
สแกนแบบส่งอัตโนมัติ |
ส่งไปยังโฮสต์โดยอัตโนมัติหลังจากที่สแกนบาร์โค้ดเสร็จสิ้น |
Backspace ทำการลบ |
ทำการลบ <7F> แทนการเคาะถอยหลัง <08> เมื่อคีย์ backspace ถูกกด |
เพิกเฉยต่อรหัสควบคุมที่ได้รับ 8 บิต |
ถือว่ารหัสควบคุม 8 บิตเป็นอัขระที่ขยาย |
กลับคำตอบใหม่ |
แสดงสตริงในอุปกรณ์เคลื่อนที่เมื่ออุปกรณ์ได้รับ ENQ จากโฮสต์ รองรับตัวแปรต่าง ๆ ต่อไปนี้: • %m - %r แสดงถึงออคเต็ทหกอันของที่อยู่ MAC • %a - %d แสดงถึงออคเต็ทสี่รายการของที่อยู่ IP • %s แสดงถึงหมายเลขเซสชั่น • %t แสดงถึง ID จุดเชื่อมต่อ (Avalanche เท่านั้น) ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการตอบสนองกับ ENQ ให้เป็นที่อยู่ MAC แบบเต็ม ให้ใช้: |
โหมด VT Line |
จำลองพฤติกรรมของโหมด line สำหรับโฮสต์ที่ไม่รองรับ |
การสะท้อนภายใน |
ระบุว่าจุดเชื่อมต่อจะใช้การสะท้อนภายในเพื่อสะท้อนสิ่งที่ส่งไปยังโฮสต์หรือไม่ |
สถานะ Caps Lock เบื้องต้น |
ตั้งค่าแป้นพิมพ์ในการเปิดใช้งาน Caps lock เมื่อเปิดใช้งาน |
จัดการลำดับ Telxon |
รองรับลำดับหลีก Telxon จากโฮสต์ |
ตัวยุติสแกนพิเศษ Telxon |
ตั้งค่าตัวยุติ Telxon ที่ต่อหลังข้อมูลที่สแกน |
ตัวยุติการสแกน |
ตั้งค่าข้อมูลที่ต่อหลังในแต่ะลครั้งที่ข้อมูลที่สแกนถูกป้อน |
ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ |
ที่อยู่ของเซิร์ฟเวอร์สิทธิ์ TE |
พอร์ตเซิร์ฟเวอร์ |
พอร์ตที่เซิร์ฟเวอร์สิทธิ์จะใช้เพื่อให้สิทธิ์ |
ไซต์ ID |
ไซต์ ID ที่จะใช้เมื่อร้องขอสิทธิ์จากเซิร์ฟเวอร์สิทธิ์ ต้องการสิ่งนี้เมื่อคุณได้คำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์สิทธิ์ในการใช้ไซต์ ID |
เพิ่ม |
อนุญาตให้คุณใช้มาโครเพื่อแทนที่คีย์ด้วยคีย์อื่น |
เครื่องหมายจับเวลา |
ส่งเครื่องหมายจับเวลาไปยังโฮสต์เพื่อระบุว่าเซสชั่นยังคงอยู่หรือไม่ |
บันทึกกิจกรรม |
สร้างบันทึกของกิจกรรมเครือข่ายสำหรับเซสชั่น บันทึกจะถูกเก็บไว้ในที่จัดเก็บที่ต่อเชื่อมที่จัดรายการไว้เป็นอันแรกในอุปกรณ์ (ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบไฟล์ราก) สิ่งนี้อาจเป็นได้ทั้งที่เก็บข้อมูลภายในหรือการ์ด SD |
ขนาดสูงสุดของบันทึก |
ขนาดสูงสุดของไฟล์บันทึกเซสชั่น (kB) เมื่อบันทึกถึงขนาดสูงสุดแล้ว เนื้อหาปัจจุบันจะถูกเขียนเพื่อสำรองไฟล์บันทึกและไฟล์บันมึกใหม่จะเริ่มต้น หากมีไฟล์บันทึกสำรองข้อมูลในปัจจุบัน จะถูกเขียนทับ |
ขีดจำกัดคุณภาพสัญญาณ |
ตั้งค่าคุณภาพสัญญาณขั้นต่ำที่ต้องใช้สำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย ป้อนค่าความแรงของสัญญาณระหว่าง 0 ถึง 100 โดยที่ 0 หมายถึงแย่มาก 100 หมายถึงดีมาก เมื่อสัญญาณไร้สายในอุปกรณ์แย่ลงเกินกว่าค่าคุณภาพที่ระบุไว้ แป้นพิมพ์และเครื่องสแกนของอุปกรณ์จะถูกปิดใช้งาน ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 0 นี่สำหรับอุปกรณ์ Android เท่านั้น |
รหัสผ่านขั้นสูง |
จำกัดการเข้าถึงเพื่อแก้ไขโปรไฟล์โฮสต์ในระดับอุปกรณ์ เมื่อรหัสผ่านถูกตั้งค่า อุปกรณ์อัจฉริยะจะแจ้งผู้ใช้ให้ใส่รหัสผ่านเพื่อแก้ไขโปรไฟล์โฮสต์ที่มีอยู่ หากไม่ได้ตั้งค่ารหัสผ่าน ผู้ใช้สามารถแก้ไขโปรไฟล์โฮสต์ได้จากอุปกรณ์ หากไม่ได้ตั้งค่ารหัสผ่าน รหัสผ่านเริ่มต้นจะเป็น system |
รหัสผ่านการกำหนดค่า |
จำกัดการเข้าถึงหน้าการตั้งค่าในระดับอุปกรณ์ เมื่อรหัสผ่านถูกตั้งค่า อุปกรณ์อัจฉริยะจะแจ้งผู้ใช้ให้ใส่รหัสผ่านเพื่อแก้ไขการตั้งค่าไคลเอ็นต์ หากไม่ได้ตั้งค่ารหัสผ่าน รหัสผ่านเริ่มต้นจะเป็น config |
ล็อกแนว |
ล็อกหน้าจอเพื่อให้อุปกรณ์อยู่ในแนวเริ่มต้น |
หน้าจอคงที่ |
แต่ละครั้งที่ได้รับหน้าจอจากโฮสต์ หน้าจอจะถูกตั้งค่าให้แสดงแถว 1 คอลัมน์ 1 ที่มุมซ้ายบน |
ขนาดแบบอักษรเริ่มต้น |
ตั้งค่าระดับการซูมเมื่อเชื่อมต่ออยู่กับโฮสต์ เมื่อสิ่งนี้ถูกตั้งค่าเป็น 0 ไคลเอ็นต์จะคำนวณขนาดที่เหมาะสม |
ปิดใช้งานการแพนและการซูม |
ปิดใช้งานความสามารถในการแพนและซูมเมื่อเชื่อมต่ออยู่กับโฮสต์ |
ปิดการใช้งานการย่อแป้นพิมพ์ |
ปิดใช้งานตัวเลือกในการย่อแป้นพิมพ์ |
ความสูงแป้นพิมพ์ (แนวตั้ง) |
ตั้งค่าความสูงของแป้นพิมพ์บนหน้าจอเป็นค่าร้อยละของหน้าจอเมื่ออุปกรณ์อยู่ในแนวตั้ง |
ความสูงแป้นพิมพ์ (แนวนอน) |
ตั้งค่าความสูงของแป้นพิมพ์บนหน้าจอเป็นค่าร้อยละของหน้าจอเมื่ออุปกรณ์อยู่ในแนวนอน |
ซ่อนแถบชื่อของ Android (Android เท่านั้น) |
ซ่อนแถบชื่อของ Android |
ความดังเสียงบี๊บ |
ตั้งค่าความดังเสียงบี๊บ |
เสียงบี๊บของหน้าจอ |
บี๊บเมื่อหน้าจอใหม่ถูกส่งจากโฮสต์ ตัวเลือกนี้มีไว้สำหรับแบบจำลอง 5250 และ 3270 เท่านั้น |
โหมดปิดเสียง |
ปิดใช้งานเสียงบี๊บเตือนของไคลเอ็นต์ TE ทั้งหมด |
การตั้งค่าเหล่านี้จะทำงานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ Android โดยใช้เครื่องสแกนของ Motorola
เปิดใช้งาน/ปิดใช้งานสัญลักษณ์บาร์โค้ด |
กำหนดค่าว่าจะเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานตัวถอดรหัสบาร์โค้ดตัวใด เราแนะนำให้ปิดใช้งานตัวถอดรหัสที่ไม่จำเป็นเพื่อปรับปรุงการทำงานของอุปกรณ์ |
เปิดใช้งานตัวอ่านแถบแม่เหล็ก |
เปิดใช้งานตัวอ่านแถบแม่เหล็กของอุปกรณ์ |
การตั้งค่าตัวถอดรหัส (เฉพาะ Motorola)
การตั้งค่าเหล่านี้จะทำงานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ Android โดยใช้เครื่องสแกนของ Motorola
CodaBar |
• การแก้ไข CLSI เอาอักขระเริ่มต้นและสิ้นสุดออกและใส่พื้นที่ว่างหลังจากอักขระตัวแรก ตัวที่ห้า และตัวที่สิบบนสัญลักษณ์ Codabar 13 อักขระ • ขีดจำกัดล่างของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดล่างสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Codabar ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Codabar ที่มีระหว่าง 8 ถึง 24 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็นแปด ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 6 • ขีดจำกัดบนของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดบนสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Codabar ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Codabar ที่มีระหว่าง 8 ถึง 24 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็น 24 ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 55 • การแก้ไข NOTIS ลบอักขระเริ่มต้นและสิ้นสุดออกจากสัญลักษณ์ Codabar • ความซ้ำซ้อนของข้อมูล บังคับให้อุปกรณ์อ่านบาร์โค้ดสองครั้งก่อนรับข้อมูล |
โค้ด 11 |
• ขีดจำกัดล่างของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดล่างสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 11 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 11 ที่มีระหว่าง 4 ถึง 12 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็นสี่ ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 4 • ขีดจำกัดบนของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดบนสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 11 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 11 ที่มีระหว่าง 4 ถึง 12 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็น 12 ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 55 • ความซ้ำซ้อนของข้อมูล บังคับให้อุปกรณ์อ่านบาร์โค้ดสองครั้งก่อนรับข้อมูล • รายงานเลขตรวจสอบ ส่งข้อมูล Code 11 พร้อมกับเลขตรวจสอบ • ยืนยันเลขตรวจสอบ ตรวจสอบสัญลักษณ์ Code 11 ทั้งหมดเพื่อยืนยันว่าข้อมูลที่สแกนเป็นไปตามรูปแบบเลขตรวจสอบที่เลือก คุณสามารถเลือก ไม่มีเลขตรวจสอบ, เลขตรวจสอบ 1 หลัก หรือ เลขตรวจสอบ 2 หลัก |
Code 128 |
• ตรวจสอบตาราง ISBT ตรวจสอบบาร์โค้ด ISBT เทียบกับตารางคู่ที่ใช้บ่อย หาก โหมดการเชื่อม ISTB 128 เปิดใช้งานอยู่ การเลือกตัวเลือกนี้จะเชื่อมเฉพาะคู่ที่พบในตาราง • เปิดใช้งาน GS1-128 เปิดใช้งานประเภทย่อย GS1-128 • เปิดใช้งาน Plain Code 128 เปิดใช้งานประเภทย่อยที่ไม่ใช่ EAN or ISBT Code 128 อื่น • เปิดใช้งาน ISBT 128 เปิดใช้งานประเภทย่อย ISBT 128 • ขีดจำกัดล่างของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดล่างสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 128 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 128 ที่มีระหว่าง 8 ถึง 24 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็นแปด ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 0 • ขีดจำกัดบนของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดบนสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 128 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 128 ที่มีระหว่าง 8 ถึง 24 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็น 24 ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 55 • โหมดการเชื่อม ISBT 128 ถอดรหัสและเชื่อมคู่รหัส ISBT เมื่อพบ หากมีสัญลักษณ์ ISBT แบบเดี่ยว ๆ อยู่ อุปกรณ์จะถอดรหัสสัญลักษณ์ตามจำนวนครั้งที่ตั้งค่าไว้ในตัวเลือก ความซ้ำซ้อนของข้อมูล ก่อนการส่งข้อมูล หากไม่เลือกอยู่ อุปกรณ์จะไม่เชื่อมคู่รหัส ISBT เมื่อพบ • ความซ้ำซ้อนของข้อมูล บังคับให้อุปกรณ์อ่านบาร์โค้ดสองครั้งก่อนรับข้อมูล หาก ตรวจสอบตาราง ISBT ถูกเลือกอยู่ ตัวเลือกนี้จะถูกเลือกและไม่สามารถแก้ไขได้ • ระดับความปลอดภัย ใช้ระดับความปลอดภัยการถอดรหัสสำหรับบาร์โค้ด Code 128 ระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้นจะถูกใช้เพื่อลดการถอดรหัสผิดที่เป็นผลมาจากคุณภาพของบาร์โค้ด คุณสามารถเลือกระหว่าง ระดับความปลอดภัย 0, ระดับความปลอดภัย 1, ระดับความปลอดภัย 2 และ ระดับความปลอดภัย 3 ได้ |
Code 39 |
• แปลง Code 39 เป็น Code 32 เปิดใช้งานการสแกนบาร์โค้ดเพื่อเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานตัวแปร Code 32 • ASCII แบบเต็ม เปิดใช้งานการใช้งานตัวแปร Code 39 ที่จับคู่อักขระเพื่อเข้ารหัสชุดอักขระ ASCII แบบเต็ม • ขีดจำกัดล่างของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดล่างสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 39 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 39 ที่มีระหว่าง 8 ถึง 24 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็นแปด ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 0 • ขีดจำกัดบนของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดบนสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 39 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 39 ที่มีระหว่าง 8 ถึง 24 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็น 24 ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 55 • ความซ้ำซ้อนของข้อมูล บังคับให้อุปกรณ์อ่านบาร์โค้ดสองครั้งก่อนรับข้อมูล • รายงานเลขตรวจสอบ ส่งข้อมูล Code 39 พร้อมกับเลขตรวจสอบ • รายงานคำนำหน้า Code 32 เปิดใช้งานการสแกนบาร์โค้ดเพื่อเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการเพิ่มอักขระนำหน้า "A" ไปยังบาร์โค้ด Code 32 ทั้งหมด • ยืนยันเลขตรวจสอบ ตรวจสอบสัญลักษณ์ Code 39 ทั้งหมดเพื่อยืนยันว่าข้อมูลที่สแกนเป็นไปตามรูปแบบเลขตรวจสอบที่เลือก เปิดใช้งานคุณสมบัตินี้เฉพาะเมื่อสัญลักษณ์ Code 39 มีเลขตรวจสอบ modulo 43 • ระดับความปลอดภัย ใช้ระดับความปลอดภัยการถอดรหัสสำหรับบาร์โค้ด Code 39 ระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้นจะถูกใช้เพื่อลดการถอดรหัสผิดที่เป็นผลมาจากคุณภาพของบาร์โค้ด คุณสามารถเลือกระหว่าง ระดับความปลอดภัย 0, ระดับความปลอดภัย 1, ระดับความปลอดภัย 2 และ ระดับความปลอดภัย 3 ได้ |
Code 93 |
• ขีดจำกัดล่างของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดล่างสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 93 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 93 ที่มีระหว่าง 4 ถึง 12 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็นสี่ ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 0 • ขีดจำกัดบนของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดบนสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 93 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Code 93 ที่มีระหว่าง 4 ถึง 12 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็น 12 ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 55 • ความซ้ำซ้อนของข้อมูล บังคับให้อุปกรณ์อ่านบาร์โค้ดสองครั้งก่อนรับข้อมูล |
คอมโพสิต AB |
• โหมดลิงก์ UCC เปิดใช้งานโหมดลิงก์ UCC คุณสามารถเลือก แบ่งแยกอัตโนมัติ, เพิกเฉยธงที่เชื่อมโยง หรือ เชื่อมโยงเสมอ |
Discrete 2 of 5 |
• ขีดจำกัดล่างของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดล่างสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Discrete 2 of 5 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Discrete 2 of 5 ที่มีระหว่าง 4 ถึง 12 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็นสี่ ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 0 • ขีดจำกัดบนของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดบนสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Discrete 2 of 5 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Discrete 2 of 5 ที่มีระหว่าง 4 ถึง 12 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็น 12 ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 14 • ความซ้ำซ้อนของข้อมูล บังคับให้อุปกรณ์อ่านบาร์โค้ดสองครั้งก่อนรับข้อมูล |
Interleaved 2 of 5 |
• เลขตรวจสอบ กำหนดการใช้งานเลขตรวจสอบในสัญลักษณ์ Interleaved 2 of 5 ตัวเลือกต่อไปนี้สามารถเลือกใช้งานได้: • ไม่มีเลขตรวจสอบ ไม่ใช้เลขตรวจสอบ • เลขตรวจสอบ USS ตรวจสอบความถูกต้องของสัญลักษณ์ Interleaved 2 of 5 ทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามรูปแบบเลขตรวจสอบของ Uniform Symbology Specification (USS) • เลขตรวจสอบ OPCC ตรวจสอบความถูกต้องของสัญลักษณ์ Interleaved 2 of 5 ทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามรูปแบบเลขตรวจสอบของ Optical Product Code Council (OPCC) • แปลง ITF-14 เป็น EAN 13 แปลงบาร์โค้ด Interleaved 2 of 5 14 อักขระให้เป็น EAN-13 จากนั้นส่งข้อมูลเป็น EAN-13 ในการใช้งานตัวเลือกนี้ บาร์โค้ด Interleaved 2 of 5 จะต้องเปิดใช้งาน และมีเลขศูนย์นำหน้าก่อนเลขตรวจสอบ EAN-13 ที่ถูกต้อง • ขีดจำกัดล่างของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดล่างสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Interleaved 2 of 5 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Interleaved 2 of 5 ที่มีระหว่าง 4 ถึง 12 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็นสี่ ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 10 • ขีดจำกัดบนของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดบนสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Interleaved 2 of 5 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Interleaved 2 of 5 ที่มีระหว่าง 4 ถึง 12 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็น 12 ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 14 • ความซ้ำซ้อนของข้อมูล บังคับให้อุปกรณ์อ่านบาร์โค้ดสองครั้งก่อนรับข้อมูล • รายงานเลขตรวจสอบ ส่งข้อมูล Interleaved 2 of 5 พร้อมกับเลขตรวจสอบ • ระดับความปลอดภัย ใช้ระดับความปลอดภัยการถอดรหัสสำหรับบาร์โค้ด Interleaved 2 of 5 ระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้นจะถูกใช้เพื่อลดการถอดรหัสผิดที่เป็นผลมาจากคุณภาพของบาร์โค้ด คุณสามารถเลือกระหว่าง ระดับความปลอดภัย 0, ระดับความปลอดภัย 1, ระดับความปลอดภัย 2 และ ระดับความปลอดภัย 3 ได้ |
Matrix 2 of 5 |
• ขีดจำกัดล่างของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดล่างสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Matrix 2 of 5 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Matrix 2 of 5 ที่มีระหว่าง 4 ถึง 8 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็นสี่ ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 0 • ขีดจำกัดบนของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดบนสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ Matrix 2 of 5 ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ Matrix 2 of 5 ที่มีระหว่าง 4 ถึง 8 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็นแปด ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 10 • ความซ้ำซ้อนของข้อมูล บังคับให้อุปกรณ์อ่านบาร์โค้ดสองครั้งก่อนรับข้อมูล • รายงานเลขตรวจสอบ ส่งข้อมูล Matrix 2 of 5 พร้อมกับเลขตรวจสอบ • ยืนยันเลขตรวจสอบ ตรวจสอบสัญลักษณ์ Matrix 2 of 5 ทั้งหมดเพื่อยืนยันว่าข้อมูลที่สแกนเป็นไปตามรูปแบบเลขตรวจสอบที่เลือก |
MSI |
• เลขตรวจสอบ ตรวจสอบสัญลักษณ์ MSI ทั้งหมดเพื่อยืนยันว่าข้อมูลที่สแกนเป็นไปตามรูปแบบเลขตรวจสอบที่เลือก คุณสามารถเลือกระหว่าง เลขตรวจสอบหนึ่งหลัก หรือ เลขตรวจสอบสองหลัก ได้ • รูปแบบเลขตรวจสอบ เลือกรูปแบบที่ใช้เพื่อยืนยันเลขตรวจสอบ MSI ที่สอง คุณสามารถเลือกระหว่าง Mod-11-10 หรือ Mod-10-10 • ขีดจำกัดล่างของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดล่างสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ MSI ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ MSI ที่มีระหว่าง 4 ถึง 12 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็นสี่ ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 4 • ขีดจำกัดบนของช่วงความยาว ตั้งค่าขีดจำกัดบนสำหรับการถอดรหัสสัญลักษณ์ MSI ด้วยช่วงความยาวที่ระบุ ตัวอย่างเช่น ในการถอดรหัสสัญลักษณ์ MSI ที่มีระหว่าง 4 ถึง 12 อักขระ ให้ตั้งค่านี้เป็น 12 ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 55 • ความซ้ำซ้อนของข้อมูล บังคับให้อุปกรณ์อ่านบาร์โค้ดสองครั้งก่อนรับข้อมูล • รายงานเลขตรวจสอบ ส่งข้อมูล MSI พร้อมกับเลขตรวจสอบ |
UK Postal |
• รายงานเลขตรวจสอบ ส่งข้อมูล UK Postal พร้อมกับเลขตรวจสอบ |
UPCA |
• ส่วนนำ ส่งข้อมูลส่วนนำของ UPCA เป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์ UPC สิ่งนี้ประกอบด้วยรหัสประเทศและอักขระระบบและสามารถตั้งค่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกต่อไปนี้ได้: • ไม่มีส่วนนำ ไม่ส่งข้อมูลส่วนนำ • ส่วนนำเป็นอักขระระบบ ส่งข้อมูลอักขระระบบเท่านั้น • ส่วนนำเป็นรหัสประเทศและอักขระระบบ ส่งข้อมูลรหัสประเทศและอักขระระบบ • รายงานเลขตรวจสอบ ส่งข้อมูล UPCA พร้อมกับเลขตรวจสอบ |
UPC-E0 |
• แปลง UPC-E0 เป็น UPC-A. แปลงข้อมูล UPC-E0 ที่ถอดรหัสเป็นรูปแบบ UPC-A ก่อนการส่งข้อมูล • ส่วนนำ ส่งข้อมูลส่วนนำของ UPC-E0 เป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์ UPC สิ่งนี้ประกอบด้วยรหัสประเทศและอักขระระบบและสามารถตั้งค่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกต่อไปนี้ได้: • ไม่มีส่วนนำ ไม่ส่งข้อมูลส่วนนำ • ส่วนนำเป็นอักขระระบบ ส่งข้อมูลอักขระระบบเท่านั้น • ส่วนนำเป็นรหัสประเทศและอักขระระบบ ส่งข้อมูลรหัสประเทศและอักขระระบบ • รายงานเลขตรวจสอบ ส่งข้อมูล UPC-E0 พร้อมกับเลขตรวจสอบ |
UPC-E1 |
• แปลง UPC-E1 เป็น UPC-A. แปลงข้อมูล UPC-E1 ที่ถอดรหัสเป็นรูปแบบ UPC-A ก่อนการส่งข้อมูล • ส่วนนำ ส่งข้อมูลส่วนนำของ UPC-E1 เป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์ UPC สิ่งนี้ประกอบด้วยรหัสประเทศและอักขระระบบและสามารถตั้งค่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกต่อไปนี้ได้: • ไม่มีส่วนนำ ไม่ส่งข้อมูลส่วนนำ • ส่วนนำเป็นอักขระระบบ ส่งข้อมูลอักขระระบบเท่านั้น • ส่วนนำเป็นรหัสประเทศและอักขระระบบ ส่งข้อมูลรหัสประเทศและอักขระระบบ • รายงานเลขตรวจสอบ ส่งข้อมูล UPC-E1 พร้อมกับเลขตรวจสอบ |
การตั้งค่าตัวอ่าน (เฉพาะ Motorola)
การตั้งค่าเหล่านี้จะทำงานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ Android โดยใช้เครื่องสแกนของ Motorola
ตัวจับเวลาสัญญาณ |
ตั้งค่าปริมาณเวลาสูงสุดที่ตัวอ่านจะเปิดอยู่ หากตั้งค่าเป็น 0 ตัวอ่านจะเปิดอยู่อย่างต่อเนื่อง ค่านี้ตั้งได้ระหว่าง 0 ถึง 60,000 มิลลิวินาทีโดยเพิ่มได้ทีละ 100 มิลลิวินาที ตามค่าเริ่มต้น ค่านี้จะถูกตั้งไว้ที่ 15,000 มิลลิวินาที |
โหมดแสงสว่าง |
เปิดโหมดแสงสว่าง |
โหมด Inverse 1D |
อนุญาตการถอดรหัสบาร์โค้ด 1D ตัวเลือกต่อไปนี้สามารถเลือกใช้งานได้: • ปิดใช้งาน ปิดใช้งานการถอดรหัสของสัญลักษณ์ 1D ที่กลับ • เปิดใช้งาน เปิดใช้งานการถอดรหัสเฉพาะของสัญลักษณ์ 1D ที่กลับ • อัตโนมัติ เปิดใช้งานการถอดรหัสของทั้งสัญลักษณ์ 1D ค่าบวกและค่าที่กลับ |
โหมด LCD |
อนุญาตให้อุปกรณ์อ่านบาร์โค้ดจากจอ LCD เช่น สมาร์ทโฟน |
ระดับความปลอดภัยเชิงเส้นยาว |
ตั้งค่าจำนวนครั้งที่จะอ่านบาร์โค้ดเพื่อยืนยันการถอดรหัสอย่างถูกต้อง • ความปลอดภัยสั้นหรือ Codabar หากบาร์โค้ดสั้นหรือเป็น Codabar บาร์โค้ดจะมีการอ่านสองครั้งเพื่อยืนยันข้อมูล • ความปลอดภัยแบบทั้งหมดสองครั้ง บาร์โค้ดทั้งหมดจะมีการอ่านสองครั้งเพื่อยืนยันข้อมูล • ความปลอดภัยยาวและสั้น บาร์โค้ดที่ยาวทั้งหมดจะมีการอ่านสองครั้งและบาร์โค้ดที่สั้นทั้งหมดจะมีการอ่านสามครั้งเพื่อยืนยันข้อมูล • ความปลอดภัยแบบทั้งหมดสามครั้ง บาร์โค้ดทั้งหมดจะมีการอ่านสามครั้งเพื่อยืนยันข้อมูล |
การตั้งเวลาเข้าสู่โหมดพลังงานต่ำ |
ตั้งค่าเวลาหลังจากที่อุปกรณ์ไม่มีการทำงานใด ๆ ก่อนเข้าสู่โหมดพลังงานต่ำ เวลานี้วัดเป็นค่ามิลลิวินาที |
รายการเลือก |
อนุญาตให้อุปกรณ์ถอดรหัสเฉพาะบาร์โค้ดที่อยู่ด้านล่างส่วนตัดของรูปแบบนี้โดยตรงเท่านั้น ตัวเลือกนี้ใช้เมื่อบาร์โค้ดหลายอันปรากฏในช่องเมื่อทำการถอดรหัส และต้องการถอดรหัสเพียงอันเดียวเท่านั้น ตัวเลือกต่อไปนี้สามารถเลือกใช้งานได้: • ปิดใช้งาน ปิดใช้งานโหมดรายการเลือก และบาร์โค้ดใด ๆ ที่มองเห็นจะถูกถอดรหัส • เปิดใช้งาน (เป้ากลม) เปิดใช้งานโหมดรายการเลือก เพื่อให้บาร์โค้ดที่อยู่ด้านล่างส่วนตัดโดยตรงถูกถอดรหัส • กึ่งกลาง เปิดใช้งานโหมดรายการเลือก เพื่อให้บาร์โค้ดที่อยู่กึ่งกลางของภาพถูกถอดรหัส โหมดนี้ใช้ได้เฉพาะเมื่อโมดูลตัวถอดรหัสรองรับช่องมองภาพ |
โหมด ViewFinder |
แสดงโหมดช่องมองภาพสำหรับการสแกนแบบกำหนดเป้า ตัวเลือกต่อไปนี้สามารถเลือกใช้งานได้: • เป้ากลมนิ่ง เปิดใช้งานช่องมองภาพเช่นเดียวกับเป้าสีแดงตรงกึ่งกลางของหน้าจอเพื่อช่วยในการเลือกบาร์โค้ด • ปิดใช้งาน ViewFinder ปิดใช้งานช่องมองภาพ • เปิดใช้งาน ViewFinder เปิดใช้งานเฉพาะช่องมองภาพ |
การตั้งค่าการสแกน (เฉพาะ Motorola)
การตั้งค่าเหล่านี้จะทำงานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ Android โดยใช้เครื่องสแกนของ Motorola
ประเภทของ Code ID |
ระบุอักขระของ Code ID ที่ใช้เพื่อกำหนดประเภทรหัสของบาร์โค้ดที่สแกน ตัวเลือกนี้แนะนำเมื่อคุณถอดรหัสประเภทของรหัสมากกว่าหนึ่งประเภท ตัวเลือกต่อไปนี้สามารถเลือกใช้งานได้: • ไม่มี ไม่ใช้คำนำหน้า • AIM คำนำหน้าสามอักขระแบบมาตรฐาน • สัญลักษณ์ คำนำหน้าอักขระเดียวแบบระบุด้วยสัญลักษณ์ |
การถ่ายภาพ LED ID |
ตั้งค่าการถ่ายภาพ LED ID ค่านี้ตั้งไว้ที่ 8 ตามค่าเริ่มต้น |
เสียงแจ้งเมื่อถอดรหัส |
ตั้งค่าโทนเสียงให้ดังขึ้นเมื่อถอดรหัสสำเร็จ |
ตัวจับเวลา LED เสียงการถอดรหัส |
ตั้งค่าว่าเสียงจะเล่นนานกี่มิลลิวินาทีเมื่อถอดรหัสสำเร็จ ค่านี้ตั้งไว้ที่ 75 ตามค่าเริ่มต้น |
การเตือนแบบสัมผัสเมื่อถอดรหัส |
ทำให้อุปกรณ์สั่นเมื่อถอดรหัสสำเร็จ |
การตั้งค่า UPC/EAN (เฉพาะ Motorola)
การตั้งค่าเหล่านี้จะทำงานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ Android โดยใช้เครื่องสแกนของ Motorola
รหัส Bookland |
เปิดใช้งานการถอดรหัสข้อมูล Bookland |
รูปแบบ Bookland |
กำหนดรูปแบบสำหรับข้อมูล Bookland ที่ถอดรหัส ตัวเลือกต่อไปนี้สามารถเลือกใช้งานได้: • ISBN-10 เครื่องสแกนจะรายงานข้อมูล Bookland (เริ่มต้นด้วย 978) ในรูปแบบ 10 หลักพร้อมกับเลขตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานร่วมกันกับแบบถอยหลังได้ • ISBN-13 เครื่องสแกนจะรายงานข้อมูล Bookland (เริ่มต้นด้วย 978 หรือ 979) เป็น EAN-13 ในรูปแบบที่เหมาะสม |
แปลง DataBar เป็น UPC EAN |
แปลงบาร์โค้ด DataBar เป็นรูปแบบ UPC/EAN ในการใช้การตั้งค่านี้ สัญลักษณ์ UPC/EAN จะต้องถูกเปิดใช้งานบนแถบ Barcode/MSR |
คูปอง |
เปิดใช้งานการถอดรหัสคูปอง เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์สามารถถอดรหัสคูปองได้สำเร็จ คุณต้องเปิดใช้งานตัวถอดรหัสที่จำเป็นทั้งหมด |
โหมดรายงานคูปอง |
ตั้งค่าโหมดคูปองที่สนับสนุนที่เครื่องสแกนสามารถถอดรหัสได้ ตัวเลือกต่อไปนี้สามารถเลือกใช้งานได้: • โหมดรายงานคูปองเก่า เครื่องสแกนจะถอดรหัสเฉพาะคูปองรูปแบบเก่า • โหมดรายงานคูปองใหม่ เครื่องสแกนจะถอดรหัสเฉพาะคูปองรูปแบบ GS1 DataBar แบบใหม่ • โหมดรายงานคูปองทั้งสองแบบ เครื่องสแกนจะถอดรหัสทั้งคูปองรูปแบบเก่าและรูปแบบ GS1 DataBar แบบใหม่ |
การถอดรหัสเชิงเส้นตรง |
เปิดใช้งานการถอดรหัสเชิงเส้นตรง |
สุ่มเลขตรวจสอบน้ำหนัก |
เปิดใช้งานการยืนยันเลขตรวจสอบน้ำหนักแบบสุ่ม |
นับใหม่ |
ตั้งค่าการนับใหม่สำหรับการแบ่งส่วนเสริมแบบอัตโนมัติ ค่าที่ใช้ได้คือระหว่าง 2 ถึง 20 ช่องนี้ใช้ได้เฉพาะเมื่อ โหมดส่วนเสริม มีการตั้งค่าไปที่ ส่้วนเสริมอัตโนมัติ, ส่วนเสริมแบบสมาร์ท, ส่วนเสริม 378-379, ส่วนเสริม 978-979, ส่วนเสริม 977 หรือ ส่วนเสริม 414-419-434-439 |
ระดับความปลอดภัย |
ใช้ระดับความปลอดภัยการถอดรหัสสำหรับบาร์โค้ด UPC/EAN ระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้นจะถูกใช้เพื่อลดการถอดรหัสผิดที่เป็นผลมาจากคุณภาพของบาร์โค้ด คุณสามารถเลือกระหว่าง ระดับความปลอดภัย 0, ระดับความปลอดภัย 1, ระดับความปลอดภัย 2 และ ระดับความปลอดภัย 3 ได้ |
ส่วนเสริม 2 |
เปิดใช้งานการถอดรหัสข้อมูลส่วนเสริม 2 |
ส่วนเสริม 5 |
เปิดใช้งานการถอดรหัสข้อมูลส่วนเสริม 5 |
โหมดส่วนเสริม |
เปิดใช้งานการถอดรหัสสัญลักษณ์ส่วนเสริมและรหัส UPC/EAN เฉพาะ ตัวเลือกต่อไปนี้สามารถเลือกใช้งานได้: • ไม่ใช้ส่วนเสริม: เครื่องสแกนจะได้รับสัญลักษณ์ UPC/EAN และส่วนเสริม แต่จะถอดรหัสเฉพาะอักขระ UPC/EAN • เสมอ เครื่องสแกนจะถอดรหัสเฉพาะสัญลักษณ์ UPC/EAN ที่มีอักขระส่วนเสริม • อัตโนมัติ เครื่องสแกนจะถอดรหัสเฉพาะสัญลักษณ์ UPC/EAN ที่มีและไม่มีอักขระส่วนเสริม • แบบสมาร์ท เปิดใช้งานส่วนเสริมแบบสมาร์ท ตัวถอดรหัสจะคืนค่าที่ถอดรหัสของบล็อคหลัก หากไม่ได้อยู่ในกลุ่มของหนึ่งในประเภทส่วนเสริมดังต่อไปนี้: 378, 379, 977, 978, 979, 414, 419, 434 หรือ 439 • ส่วนเสริม 378-379 เปิดใช้งานการแบ่งส่วนเสริมสำหรับรหัส UPC/EAN ที่เริ่มต้นด้วย 378 หรือ 379 โดยอัตโนมัติ บาร์โค้ดอื่นใด ๆ ที่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยเลขเหล่านี้จะถูกเพิกเฉย • ส่วนเสริม 978-979 เปิดใช้งานการแบ่งส่วนเสริมสำหรับรหัส UPC/EAN ที่เริ่มต้นด้วย 978 หรือ 979 โดยอัตโนมัติ บาร์โค้ดอื่นใด ๆ ที่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยเลขเหล่านี้จะถูกเพิกเฉย • ส่วนเสริม 414-419-434-439 เปิดใช้งานการแบ่งส่วนเสริมสำหรับรหัส UPC/EAN ที่เริ่มต้นด้วย 414, 419, 434 หรือ 439 โดยอัตโนมัติ บาร์โค้ดอื่นใด ๆ ที่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยเลขเหล่านี้จะถูกเพิกเฉย • ส่วนเสริม 977 เปิดใช้งานการแบ่งส่วนเสริมสำหรับรหัส UPC/EAN ที่เริ่มต้นด้วย 977 โดยอัตโนมัติ บาร์โค้ดอื่นใด ๆ ที่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยเลขนี้จะถูกเพิกเฉย |
การกำหนดรูปแบบข้อมูลพื้นฐาน (Motorola เท่านั้น)
การตั้งค่าเหล่านี้จะทำงานได้เฉพาะกับอุปกรณ์ Android โดยใช้เครื่องสแกนของ Motorola
เปิดใช้งาน |
เปิดใช้งานหรือปิดใช้งานเพื่อใช้การตั้งค่าการกำหนดรูปแบบข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งจะเปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้น |
คำนำหน้าข้อมูล |
เพิ่มอักขระไปที่ตอนต้นของข้อมูลที่สแกนที่ถูกส่งไป |
คำเสริมท้ายข้อมูล |
เพิ่มอักขระไปยังตอนท้ายของข้อมูลที่สแกนที่ถูกส่งไป |
ส่งข้อมูล |
โอนถ่ายข้อมูลที่ได้ไปยังแอพพลิเคชันเบื้องหน้า ซึ่งจะเปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้น การปิดใช้งานตัวเลือกจะป้องกันข้อมูลจริงจากการถูกส่งแม้ว่าสตริงนำหน้าหรือลงท้ายจะยังถูกส่งอยู่ |
ส่งเป็นฐานสิบหก |
ส่งข้อมูลที่สแกนในรูปแบบเลขฐานสิบหก |
ส่งคีย์ TAB |
เติมอักขระ TAB ไปยังตอนท้ายของข้อมูลที่สแกน |
ส่งคีย์ ENTER |
เติมอักขระ ENTER ไปยังตอนท้ายของข้อมูลที่สแกน |
ในการสร้างเพย์โหลดการตั้งค่าไคลเอนต์ TE:
1 จากแถบโปรไฟล์ ให้คลิก เพย์โหลดใหม่ ในแถบคำสั่ง เพย์โหลด ที่มี
2 หน้าต่างโต้ตอบ เพย์โหลด จะปรากฏขึ้น เลือกตัวเลือก iOS และ Android จากนั้นคลิก การกำหนดการตั้งค่าไคลเอนต์ TE
3 พารามิเตอร์การจำลองจะปรากฏ พารามิเตอร์จะถูกจัดเรียงโดยแถบที่ด้านซ้าย กำหนดค่าเพย์โหลด และคลิก บันทึก
ในการปรับใช้การตั้งค่าในอุปกรณ์ ให้เพิ่มเพย์โหลดลงในโปรไฟล์การกำหนดค่าแอพพลิเคชันและปรับใช้โปรไฟล์กับโฟลเดอร์ เมื่อคุณได้ทำการปรับใช้ อุปกรณ์ที่ได้รับสิทธิ์ใช้งานที่ถูกกำหนดไปยังโฟลเดอร์นั้นจะได้รับการตั้งค่าในครั้งถัดไปที่เช็คอิน หากอุปกรณ์ไม่ได้รับสิทธิ์ใช้งาน ให้พิมพ์รหัส QR ที่เชื่อมโยงกับโฟลเดอร์นั้น และสแกนด้วยอุปกรณ์เพื่อกำหนดค่าไคลเอ็นต์ สำหรับข้อมูลเรื่องการพิมพ์รหัส QR ที่เชื่อมโยงกับโฟลเดอร์ ให้ดูที่ การกำหนดค่าซอฟต์แวร์ในอุปกรณ์อัจฉริยะที่ไม่ได้ลงทะเบียน
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความนี้:
ไม่ถูกต้อง
ไม่สมบูรณ์
ไม่ใช่ที่ฉันต้องการ
อื่นๆ