เพย์โหลดของการกำหนดค่าโปรไฟล์โฮสต์ TE จะส่งโปรไฟล์โฮสต์ไปยังไคลเอ็นต์ที่ติดตั้งในอุปกรณ์อัจฉริยะ เพย์โหลดสามารถปรับใช้กับโฟลเดอร์ที่มีทั้งอุปกรณ์ Android และ iOS ได้ แต่ตัวเลือกบางอันจะไม่รองรับในแพลตฟอร์มทั้งสองอัน
เพย์โหลดของการกำหนดค่าโปรไฟล์โฮสต์ TE มีตัวเลือกต่อไปนี้:
ชื่อของเพย์โหลด (ชื่อโปรไฟล์โฮสต์) |
ชื่อโปรไฟล์โฮสต์ |
ประเภท |
ประเภทของการจำลองที่อุปกรณ์เคลื่อนที่ใช้เมื่อเชื่อมต่ออยู่กับระบบโฮสต์ |
ที่อยู่ |
ที่อยู่ IP หรือชื่อโฮสต์ของระบบโฮสต์ที่ซึ่งอุปกรณ์เคลื่อนที่จะเชื่อมต่อด้วย ในการแจ้งขอผู้ใช้อุปกรณ์สำหรับที่อยู่ทั้งหมดหรือบางส่วน ให้ใช้ตัวแปรที่คั่นด้วย % สามารถใช้ตัวแปรได้ในชื่อ DNS หรือที่อยู่ IP ตัวอย่างเช่น: 192.168.42.%หมายเลขร้านค้า% ข้อความที่อยู่ภายในตัวบ่งชี้ % คือข้อมูลที่ปรากฏในข้อความแจ้งบนอุปกรณ์ ในตัวอย่างด้านบน ข้อความแจ้งบนอุปกรณ์จะขอ "หมายเลขร้านค้า" จากผู้ใช้ หากผู้ใช้ให้หมายเลขร้านค้าเป็น 123 ไคลเอ็นต์จะพยายามเชื่อมต่อไปที่ 192.168.42.123 |
พอร์ต |
หมายเลขพอร์ต TCP ที่ซึ่งระบบโฮสต์จะรับฟังการร้องขอการจำลองจากไคลเอ็นต์ |
ใช้ ConnectPro |
ระบุว่าไคลเอ็นต์ TE ควรจะเชื่อมต่อกับโฮสต์ผ่านเซิร์ฟเวอร์ ConnectPro เท่านั้นหรือไม่ |
ใช้ SSL/TLS |
ใช้ SSL/TLS เพื่อเข้ารหัสข้อมูลที่ส่งไปที่โฮสต์ ไม่มีซอฟต์แวร์เพิ่มเติมสำหรับ SSL/TLS ในอุปกรณ์ Android แต่โฮสต์จะต้องได้รับการกำหนดค่าสำหรับ SSL/TLS เมื่อคุณเปิดใช้งานการเข้ารหัส SSL/TLS คุณต้องใช้ใบรับรอง เลือกใบรับรองโดยใช้เพย์โหลดของใบรับรอง TE SSL หลังจากที่คุณได้กำหนดค่าเพย์โหลดของใบรับรองแล้ว คุณสามารถเลือกใบรับรองในเมนูแบบหล่นลงสำหรับโปรไฟล์โฮสต์ |
ใช้ SSH |
ใช้ SSH เพื่อเข้ารหัสข้อมูลที่ส่งไปที่โฮสต์ ไม่มีซอฟต์แวร์เพิ่มเติมที่จำเป็นในการใช้ SSH ในอุปกรณ์ แต่โฮสต์จะต้องได้รับการกำหนดค่าสำหรับ SSH |
ใบรับรอง SSL (Android เท่านั้น) |
ใบรับรองที่อุปกรณ์ควรใช้สำหรับ SSL ในการเชื่อมโยงใบรับรองกับโปรไฟล์โฮสต์ ให้สร้างเพย์โหลดของใบรับรอง TE SSL ก่อน |
ความกว้างของหน้าต่าง Telnet |
ความกว้างของการแสดงผลไคลเอ็นต์เป็นคอลัมน์ การกำหนดค่านอกจาก 0 จะลบกรอบสีเขียวออกจากหน้าต่างเทลเน็ต |
ความสูงของหน้าต่าง Telnet |
ความสูงของการแสดงผลไคลเอ็นต์เป็นแถว การกำหนดค่านอกจาก 0 จะลบกรอบสีเขียวออกจากหน้าต่างเทลเน็ต |
แสดงในรูปแบบขาวดำ |
จำกัดการแสดงผลเป็นข้อความสีขาวบนพื้นหลังสีดำ |
แท็กแป้นพิมพ์ |
กำหนดแท็กแป้นพิมพ์ให้กับโปรไฟล์โฮสต์เพื่อใช้แป้นพิมพ์แบบกำหนดเองโดยเฉพาะที่สร้างด้วยแพ็คประสิทธิภาพของ Wavelink ควรแยกแต่ละแท็กด้วยเครื่องหมายจุลภาค ลำดับของแป้นพิมพ์จะแสดงจากไคลเอ็นต์ TE ซึ่งควบคุมโดยลำดับของแต่ละตัวในแพ็คประสิทธิภาพไม่ได้ตามลำดับของแท็ก หากแบ่งปันแท็กให้กับหลายแป้นพิมพ์ ตัวแป้นพิมพ์จะใช้การตั้งค่าเดียวกันตามลำดับในแพ็คประสิทธิภาพ หากไม่ให้แท็กแป้นพิมพ์กับโปรไฟล์โฮสต์และมีแป้นพิมพ์แบบกำหนดเองอยู่แล้วในอุปกรณ์ด้วยการเลียนแบบเทอร์มินัล แป้นพิมพ์แบบกำหนดเองจะถูกใช้แทนแป้นพิมพ์ค่าเริ่มต้นของอุปกรณ์สำหรับโปรไฟล์โฮสต์ทั้งหมด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ การกำหนดค่าแพ็คประสิทธิภาพ (Android/iOS) |
พิเศษ (iOS เท่านั้น) |
ไม่ได้ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน |
เวิร์คสเตชั่น ID |
ID สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่กับโฮสต์ IBM ID อาจรวมถึงอักขระคงที่และสวิตช์ต่อไปนี้ ที่ซึ่งจะถูกใช้เพื่อเก็บข้อมูลแบบไดนามิกที่ระเฉพาะเจาะจงกับอุปกรณ์เคลื่อนที่แต่ละอุปกรณ์: • %a - %d เก็บออคเต็ทเฉพาะของที่อยู่ IP ของอุปกรณ์เคลื่อนที่ ตัวอย่างเช่น ใช้ %a%b%c%d เพื่อเก็บออคเต็ท IP ทั้งสี่อันของที่อยู่ของอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือใช้ %d เพื่อเก็บเฉพาะออคเต็ทสุดท้ายของที่อยู่ IP ของอุปกรณ์เคลื่อนที่ • %m - %r เก็บออคเต็ทเฉพาะของที่อยู่ MAC ของอุปกรณ์เคลื่อนที่ ตัวอย่างเช่น ใช้ %p%q%r เพื่อเก็บออคเต็ทสามอันสุดท้ายของที่อยู่ MAC ของอุปกรณ์เคลื่อนที่ • %s เก็บหมายเลขเซสชั่น • %t เก็บ ID จุดเชื่อมต่อ Avalanche ของอุปกรณ์เคลื่อนที่ เวิร์คสเตชั่น ID สามารถเป็นอักขระที่เป็นตัวอักษรและตัวเลข 1-20 ตัวรวมสวิตช์ แต่ตามปกติแล้วโฮสต์ IBM จะตัดทอนเวิร์คสเตชั่น ID ที่มีมากกว่า 10 อักขระ เวิร์คสเตชั่น ID ไม่ควรจะเริ่มต้นด้วยตัวเลข |
สตริงการนำทางของ Telnet |
สตริงการนำทางของ Telnet สำหรับการเชื่อมต่อโฮสต์ สตริงการนำทางของ Telnet ถูกใช้เพื่อระบุอุปกรณ์เคลื่อนที่ให้กับระบบโฮสต์และเพื่อแสดงตัวเลือกการจำลองที่เหมาะสมให้ไคลเอ็นต์ ระบบโฮสต์สามารถให้ขอมูลกับอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยขึ้นอยู่กับสตริงการนำทางของ Telnet (ตัวอย่างเช่น เมนูหรือตัวเลือกการแสดง) สตริงสามารถเป็นอักขระที่เป็นตัวอักษรและตัวเลข 1-20 ตัวได้ |
เซสชั่น เปิดใช้อัตโนมัติ |
ไคลเอาต์จะพยายามเชื่อมต่อกับโฮสต์ที่ระบุในทุก ๆ ครั้งที่เรียกใช้งานไคลเอ็นต์ |
ภาษา |
การเข้ารหัสสำหรับให้ไคลเอ็นต์ใช้ |
ใช้การต่ออุโมงค์ |
ตั้งค่าว่าจะใช้การต่ออุโมงค์หรือไม่ หากคุณใช้การจำลอง 5250 กับ SSH คุณต้องใช้การต่ออุโมงค์ SSH |
ที่อยู่ |
ที่อยู่ IP หรือชื่อโฮสต์สำหรับการต่ออุโมงค์ SSH |
พอร์ต |
หมายเลขพอร์ต TCP สำหรับการต่ออุโมงค์ SSH |
ชื่อผู้ใช้ |
ชื่อผู้ใช้สำหรับ SSH |
รหัสผ่าน |
รหัสผ่านสำหรับ SSH |
ConnectPro (Android/iOS เท่านั้น)
ประเภท |
หมายเลขเวอร์ชั่นของเซิร์ฟเวอร์ ConnectPro |
ที่อยู่ |
ที่อยู่ IP หรือชื่อโฮสต์ของพร็อกซีซี่เซิร์ฟเวอร์ ในการแจ้งขอผู้ใช้อุปกรณ์สำหรับที่อยู่ทั้งหมดหรือบางส่วน ให้ใช้ตัวแปรที่คั่นด้วย % สามารถใช้ตัวแปรได้ในชื่อ DNS หรือที่อยู่ IP ตัวอย่างเช่น: 192.168.42.%หมายเลขร้านค้า% ข้อความที่อยู่ภายในตัวบ่งชี้ % คือข้อมูลที่ปรากฏในข้อความแจ้งบนอุปกรณ์ ในตัวอย่างด้านบน ข้อความแจ้งบนอุปกรณ์จะขอ "หมายเลขร้านค้า" จากผู้ใช้ หากผู้ใช้ให้หมายเลขร้านค้าเป็น 123 ไคลเอ็นต์จะพยายามเชื่อมต่อไปที่ 192.168.42.123 |
พอร์ต |
หมายเลขพอร์ต TCP ที่ซึ่งพร็อกซีซี่เซิร์ฟเวอร์จะรับฟังการร้องขอการจำลองจากไคลเอ็นต์ |
ยุติ |
ระบุเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ ConnectPro ควรยุติการเชื่อมต่อกับโฮสต์ ค่าที่เป็นไปได้: • ไม่เคย พร็อกซีซี่เซิร์ฟเวอร์จะไม่ยุติเซสชั่นที่โฮสต์สร้างขึ้น ไคลเอ็นต์มีหน้าที่ต้องยุติเซสชั่น • เมื่อเครือข่ายเกิดความผิดพลาด พร็อกซีซี่เซิร์ฟเวอร์จะยุติเซสชั่นกับโฮสต์เมื่อเครือข่ายเกิดปัญหา เช่น สูบเสียการเชื่อมต่อทางเครือข่าย • เมื่อออกเซสชั่น พร็อกซีซี่เซิร์ฟเวอร์จะยุติเซสชั่นกับโฮสต์เมื่อเซสชั่นถูกยุติโดยไคลเอ็นต์ • เสมอ พร็อกซีซี่เซิร์ฟเวอร์จะยุติเซสชั่นกับโฮสต์เมื่อเครือข่ายเกิดข้อผิดพลาดหรือเมื่อเซสชั่นถูกยุติ |
การเชื่อมต่อใหม่ |
ระบุว่าไคลเอ็นต์จะพยายามเชื่อมต่อใหม่หรือไม่หากสูญเสียเซสชั่นกับพร็อกซีซี่เซิร์ฟเวอร์โดยไม่คาดคิดและไคลเอ็นต์ไม่ได้รับข้อความของการยกเลิกการเชื่อมต่อจากพร็อกซีซี่เซิร์ฟเวอร์ |
การเชื่อมต่อสตริงใหม่ |
ระบุสตริงการเชื่อมต่อใหม่ที่อุปกรณ์เคลื่อนที่จะใช้เมื่อเชื่อมต่อกับโฮสต์ (หรือคุณอาจกำหนดค่าสตริงการเชื่อมต่อใหม่ใน ConnectPro ได้) |
SSL |
ระบุว่าไคลเอ็นต์ TE จะใช้ SSL/TLS เพื่อเชื่อมต่อกับพร็อกซีซี่เซิร์ฟเวอร์หรือกับโฮสต์ Telnet ทางเลือก |
ใบรับรอง SSL |
ใบรับรอง SSL ที่ใช้เพื่อเชื่อมต่อกับพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ |
การเข้ารหัสด้วยตัวเอง |
ใช้รูปแบบการเข้ารหัสด้วยตัวเองเพื่อเข้ารหัสข้อมูลระหว่างอุปกรณ์และพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ |
คัย์การเข้ารหัสด้วยตัวเอง |
รหัสผ่านที่ระบุในการกำหนดค่า ConnectPro (ไคลเอ็นต์และเซิร์ฟเวอร์ ConnectPro จะต้องได้รับการกำหนดค่าด้วยคีย์การเข้ารหัสเดียวกัน) |
IBM |
|
ผู้ใช้ |
ชื่อผู้ใช้ที่ไคลเอ็นต์จะใช้เมื่อเชื่อมต่อกับโฮสต์ ในการแจ้งเตือนยูสเซอร์ถึงยูสเซอร์เนมที่ระบุ คุณสามารถใช้ค่าที่กำหนดด้วย % ตัวอย่างเช่น: %หมายเลขปืน% ข้อความที่อยู่ภายในตัวบ่งชี้ % คือข้อมูลที่ปรากฏในข้อความแจ้งเตือนบนอุปกรณ์ ในตัวอย่างด้านบน ข้อความแจ้งเตือนบนอุปกรณ์จะถามผู้ใช้ขอ "หมายเลขปืน" เป็นชื่อผู้ใช้ |
รหัสผ่าน |
รหัสผ่านที่ไคลเอ็นต์จะใช้เมื่อเชื่อมต่อกับโฮสต์ ในการแจ้งผู้ใช้ขอค่ารหัสผ่านที่เฉพาะ คุณสามารถใช้ตัวแปรที่คั่นด้วย % หลังจากเลือกตัวเลือก ใช้การแจ้งเตือน ตัวอย่างเช่น: %หมายเลขร้านค้า% ข้อความที่อยู่ภายในตัวบ่งชี้ % คือข้อมูลที่ปรากฏในการแจ้งเตือนบนอุปกรณ์ ในตัวอย่างด้านบน ข้อความแจ้งเตือนบนอุปกรณ์จะขอ "หมายเลขร้านค้า" เป็นรหัสผ่านจากผู้ใช้ |
ใช้การแจ้งเตือน |
เปิดใช้งานตัวแปรในช่อง รหัสผ่าน หาก % ไม่ได้วางอยู่ด้านหน้าและหลังของค่า จะมีการแจ้งเตือนให้คุณแก้ไขปัญหา หากตัวเลือกนี้ไม่ได้เลือกอยู่และคุณป้อนค่าในช่อง รหัสผ่าน ผู้ใช้จะต้องใส่ค่าที่ป้อนแทนที่จะใส่ข้อมูลที่ถูกร้องขอ |
จัดเก็บคำตอบของผู้ใช้ |
จัดเก็บชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ป้อนโดยผู้ใช้ หลังจากผู้ใช้ออกจาก TE Client หรือเซสชั่นโอสต์และเรียกใช้งานใหม่อีกครั้ง ค่าที่จัดเก็บจะถูกป้อนใหม่ล่วงหน้าทั้งในช่อง ผู้ใช้ และ รหัสผ่าน |
โปรแกรม |
โปรแกรม/กระบวนการที่จะใช้เมื่อไคลเอ็นต์เชื่อมต่อ |
เมนู |
ชื่อเมนูที่คุณต้องการจะให้แสดงเมื่อไคลเอ็นต์เชื่อมต่อ |
ไลบรารี่ |
ชื่อของไลบรารี่ที่ไคลเอ็นต์จะนำทางไปเมื่อเชื่อมต่อ |
VT |
|
แจ้งชื่อผู้ใช้ |
แจ้งชื่อผู้ใช้ที่ระบบโฮสต์ส่ง ในการแจ้งเตือนยูสเซอร์ถึงยูสเซอร์เนมที่ระบุ คุณสามารถใช้ค่าที่กำหนดด้วย % ตัวอย่างเช่น: %หมายเลขปืน% ข้อความที่อยู่ภายในตัวบ่งชี้ % คือข้อมูลที่ปรากฏในการแจ้งเตือนบนอุปกรณ์ ในตัวอย่างด้านบน ข้อความแจ้งเตือนบนอุปกรณ์จะถามผู้ใช้ขอ "หมายเลขปืน" เป็นชื่อผู้ใช้ |
ตอบสนองชื่อผู้ใช้ |
การตอบสนองที่อุปกรณ์เคลื่อนที่จะใช้เมื่อได้รับการแจ้งชื่อผู้ใช้ |
แจ้งรหัสผ่าน |
แจ้งรหัสผ่านที่ระบบโฮสต์ส่ง |
การตอบสนองรหัสผ่าน |
การตอบสนองที่อุปกรณ์เคลื่อนที่จะใช้เมื่อได้รับการแจ้งรหัสผ่าน ในการยอมรับค่าตัวแปร คุณสามารถใช้ตัวแปรที่คั่นด้วย % หลังจากเลือกตัวเลือก ใช้การแจ้งเตือน ตัวอย่างเช่น: %หมายเลขร้านค้า% ในตัวอย่างด้านบน ข้อความแจ้งเตือนบนอุปกรณ์จะขอ "หมายเลขร้านค้า" เป็นรหัสผ่านจากผู้ใช้ |
ใช้การแจ้งเตือน |
เปิดใช้งานตัวแปรในช่อง การตอบสนองรหัสผ่าน หาก % ไม่ได้วางอยู่ด้านหน้าและหลังของค่า จะมีการแจ้งเตือนให้คุณแก้ไขปัญหา หากตัวเลือกนี้ไม่ได้เลือกอยู่และคุณป้อนค่าในช่อง การตอบสนองรหัสผ่าน ผู้ใช้จะต้องใส่ค่าที่ป้อนแทนที่จะใส่ข้อมูลที่ถูกร้องขอ |
จัดเก็บคำตอบของผู้ใช้ |
จัดเก็บชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ป้อนโดยผู้ใช้ หลังจากผู้ใช้ออกจาก TE Client หรือเซสชั่นโอสต์และเรียกใช้งานใหม่อีกครั้ง ค่าที่จัดเก็บจะถูกป้อนใหม่ล่วงหน้าทั้งในช่อง ผู้ใช้ และ รหัสผ่าน |
การแจ้งคำสั่ง |
แจ้งคำสั่งที่ระบบโฮสต์ส่ง |
การตอบสนองคำสั่ง |
การตอบสนองที่อุปกรณ์เคลื่อนที่จะใช้เมื่อได้รับการแจ้งคำสั่ง |
การสร้างเพย์โหลดโปรไฟล์โฮสต์ TE:
1 จากแถบโปรไฟล์ ให้คลิก เพย์โหลดใหม่ ในแถบคำสั่ง เพย์โหลด ที่มี
2 หน้าต่างโต้ตอบ เพย์โหลด จะปรากฏขึ้น เลือกตัวเลือก iOS และ Android จากนั้นคลิก การกำหนดค่าโปรไฟล์โฮสต์ TE
3 ตัวเลือกโปรไฟล์โฮสต์จะปรากฏ พารามิเตอร์จะถูกจัดเรียงโดยแถบที่ด้านซ้าย กำหนดค่าเพย์โหลด และคลิก บันทึก
ในการปรับใช้การตั้งค่าในอุปกรณ์ ให้เพิ่มเพย์โหลดลงในโปรไฟล์การกำหนดค่าแอพพลิเคชันและปรับใช้โปรไฟล์กับโฟลเดอร์ เมื่อคุณได้ทำการปรับใช้ อุปกรณ์ที่ได้รับสิทธิ์ใช้งานที่ถูกกำหนดไปยังโฟลเดอร์นั้นจะได้รับการตั้งค่าในครั้งถัดไปที่เช็คอิน หากอุปกรณ์ไม่ได้รับสิทธิ์ใช้งาน ให้พิมพ์รหัส QR ที่เชื่อมโยงกับโฟลเดอร์นั้น และสแกนด้วยอุปกรณ์เพื่อกำหนดค่าไคลเอ็นต์ สำหรับข้อมูลเรื่องการพิมพ์รหัส QR ที่เชื่อมโยงกับโฟลเดอร์ ให้ดูที่ การกำหนดค่าซอฟต์แวร์ในอุปกรณ์อัจฉริยะที่ไม่ได้ลงทะเบียน
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความนี้:
ไม่ถูกต้อง
ไม่สมบูรณ์
ไม่ใช่ที่ฉันต้องการ
อื่นๆ