SDProfiles_RestrictionsPayload
เพย์โหลดข้อจำกัดจะปิดใช้งานแอปพลิเคชันหรือฟังก์ชันที่กำหนด บนอุปกรณ์ Android หรือ iOSอุปกรณ์แต่ละเครื่องจะสามารถใช้เพย์โหลดการจำกัดได้รายการเดียวเท่านั้นหากมีการใช้หลายเพย์โหลดข้อจำกัดกับโฟล์เดอร์ที่มีอุปกรณ์อยู่ข้างใน เพย์โหลดที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดเท่านั้นที่จะถูกส่งไปที่อุปกรณ์คุณสามารถดูเพย์โหลดที่ถูกส่งไปที่อุปกรณ์ได้โดยการดูที่รายละเอียดอุปกรณ์
เมื่อคุณใช้เพย์โหลดข้อจำกัด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ล็อกฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการอื่นๆตัวอย่างเช่น ดูสถานการณ์ต่อไปนี้:
•อย่าปิดกั้นแอปพลิเคชัน การตั้งค่า หากคุณกำลังใช้เพย์โหลดรหัสยืนยัน เนื่องจากผู้ใช้จำเป็นต้องเข้าถึง การตั้งค่า เพื่อที่จะตั้งหรือเปลี่ยนรหัสยืนยัน
•ทำให้แน่ใจว่าได้แจกจ่ายเพย์โหลดของซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชันที่ต้องการได้ติดตั้งบนอุปกรณ์แล้วก่อนที่คุณจะไม่อนุญาตให้ติดตั้งแอพพลิเคชัน
•ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ติดตั้งแอปพลิเคชันในไวท์ลิสต์ของคุณบนอุปกรณ์แล้ว ก่อนที่คุณจะปรับใช้เพย์โหลดเพื่อเปิดใช้งานไวท์ลิสต์
Android
เข้ารหัสอุปกรณ์ |
เข้ารหัสข้อมูลส่วนตัวที่บันทึกอยู่ในอุปกรณ์เครื่องนี้ซึ่งรวมถึงบัญชี การตั้งค่า แอป สื่อและข้อมูลที่บันทึกที่บันทึกลงในสื่อพื้นที่จัดเก็บภายในของโทรศัพท์อื่นๆการดำเนินการนี้จะไม่เข้ารหัสสื่อพื้นที่จัดเก็บที่ถอดออกได้ เช่น การ์ด SDการเปิดใช้งานตัวเลือกนี้จะทำให้มีการส่งคำขอให้ผู้ใช้เข้ารหัสอุปกรณ์ แต่จะไม่บังคับให้เข้ารหัสผู้ใช้จะต้องตั้งรหัสยืนยันก่อนที่จะเข้ารหัสอุปกรณ์เนื่องจากรหัสยืนยันจะใช้เพื่อถอดรหัสข้อมูลทุกครั้งที่อุปกรณ์ปลดล็อกการเข้ารหัสอาจเป็นการกระทำที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวอุปกรณ์ |
อนุญาตแอพพลิเคชันการตั้งค่า |
อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงและเปลี่ยนการตั้งค่าอุปกรณ์ Android |
อนุญาตการติดตั้งแอพพลิเคชัน |
อนุญาตให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปการเอาเครื่องหมายออกจากตัวเลือกนี้จะไม่ได้ทำให้ผู้ใช้ลบแอปออกจากอุปกรณ์ไม่ได้Avalanche ไม่สามารถป้องกันการลบแอปในระดับอุปกรณ์ได้ |
อนุญาตการใช้งานกล้อง |
อนุญาตให้ผู้ใช้เรียกใช้แอพพลิเคชันกล้อง |
อนุญาตเว็บแอพพลิเคชัน |
อนุญาตให้ผู้ใช้เรียกใช้เว็บเบราว์เซอร์ |
อนุญาตเว็บเบราว์เซอร์เริ่มต้น |
อนุญาตให้ผู้ใช้เรียกใช้เว็บเบราว์เซอร์เริ่มต้น |
อนุญาตแอพพลิเคชันเมล |
อนุญาตให้ผู้ใช้เรียกใช้แอพพลิเคชันอีเมล |
อนุญาตให้ใช้แถบค้นหาของ Google |
อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้แอพพลิเคชัน Google Search |
อนญาตการใช้ YouTube |
อนุญาตให้ผู้ใช้เรียกใช้แอพพลิเคชัน YouTube |
เปิดใช้งานข้อจำกัด SAFE |
ทำให้คุณสามารถจำกัดการกระทำเฉพาะบนอุปกรณ์ Samsung SAFE ได้เมื่อเพย์โหลดถูกส่งไปที่อุปกรณ์ ตัวเลือกเหล่านี้จะใช้กับอุปกรณ์ Samsung SAFE เท่านั้น |
อนุญาตการยกเลิกการติดตั้งแอพพลิเคชัน |
อนุญาตให้ผู้ใช้ยกเลิกการติดตั้งแอพพลิเคชัน |
อนุญาตตัวเรียกเลขหมายด้วยเสียง |
อนุญาตให้ผู้ใช้เรียกเลขหมายโดยใช้คำสั่งด้วยเสียง |
อนุญาต Play Store |
อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึง Google Play Store |
เข้ารหัสการ์ด SD ภายนอก |
ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้ารหัสการ์ด SD ภายนอกบนอุปกรณ์ Samsung SAFE ได้กระบวนการเข้ารหัสจะต้องดำเนินการโดยผู้ใช้ในระดับอุปกรณ์ หากต้องเข้ารหัสการ์ด SD ภายนอกบนอุปกรณ์หลังจากปรับใช้เพย์โหลดการจำกัดโดยเลือกตัวเลือกนี้ ให้เปิดแอปการตั้งค่าแล้วนำทางไปที่ ความปลอดภัย > เข้ารหัสการ์ด SD ภายนอกแตะ ตั้งประเภทการล็อกหน้าจอ >รหัสผ่าน แล้วจากนั้นให้ตั้งและยืนยันรหัสผ่านรหัสผ่านจะใช้ทั้งเพื่อการเข้าถึงข้อมูลในการ์ด SD และถอดรหัสการ์ดหลังจากตั้งรหัสผ่าน คุณจะสามารถย้อนกลับไปที่หน้าจอเข้ารหัสการ์ด SD ภายนอก แล้วคุณจะต้องแตะ ดำเนินการต่อ แล้วจากนั้นให้ป้อนรหัสผ่านเพื่อเริ่มกระบวนการเข้ารหัสเมื่อเข้ารหัสโดยสมบูรณ์แล้ว การแจ้งเตือนจะปรากฏที่ด้านบนสุดของหน้าจอ หากต้องการถอดรหัสการ์ด SD ภายนอก ตัวเลือกนี้จะป้องปิดใช้งานใน Avalanche และซิงค์เข้ากับอุปกรณ์เมื่อซิงค์ ให้เปิดแอปการตั้งค่า แล้วนำทางไปที่หน้าจอเข้ารหัสการ์ด SD ภายนอกแตะ ปิด แล้วป้อนรหัสผ่านที่คุณตั้งก่อนหน้าแตะ ปรับใช้ แล้วจากนั้นรอให้ระบบถอดรหัสการ์ด SDเมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว การแจ้งเตือนจะปรากฏที่ด้านบนสุดของหน้าจอ |
ข้อจำกัดของแอป |
อนุญาตให้คุณสร้างรายการแอปพลิเคชันแบบเจาะจง และกำหนดข้อจำกัดหรือการอนุญาตแยกสำหรับแต่ละแอป หากต้องการเพิ่มแอปเฉพาะเพื่อจัดการ คุณจะต้องพิมพ์ชื่อและรายละเอียดของแพคเกจในกล่องข้อความแล้วคลิก เพิ่มแอปตัวอย่างเช่น เพื่อเพิ่มการจำกัดแอป Gmail ให้พิมพ์: Gmail com.google.android.gm ตั้งค่าข้อจำกัดสำหรับแอป โดยการเลือกแอปในรายการ และคลิกไอคอน ตั้งค่าข้อจำกัดคุณสามารถตั้งค่าข้อจำกัดได้เพียงครั้งละหนึ่งแอปตัวเลือกที่เลือกที่นี่จะใช้กับแอปที่คุณเลือกเท่านั้นหากแอปต้องการใช้ตัวเลือกที่คุณจำกัด แอปจะถูกปิดโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดใช้งานและแสดงข้อความข้อผิดพลาดหากแอปที่เปิดขออนุญาตเข้าถึงการตั้งค่าที่จำกัดและผู้ใช้อุปกรณ์ให้อนุญาต การดำเนินการนี้จะบังคับปิดแอปดังกล่าวด้วยเช่นกัน |
ข้อจำกัดของอุปกรณ์ |
จำกัดจากส่วนกลางเกี่ยวกับวิธีการที่แอปทั้งหมดโต้ตอบกันเองและโต้ตอบกับอุปกรณ์ Samsung SAFE ของคุณเลือกการจำกัดเพื่อป้องกันไม่ให้แอปใดๆ ในอุปกรณ์ทำการกระทำที่ระบุตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกอ่าน SMS อุปกรณ์ที่รับเพย์โหลดจะไม่สามารถเปิดและดูข้อความ SMS ได้ หากแอปต้องการใช้ตัวเลือกที่คุณจำกัด แอปจะถูกปิดโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดใช้งานและแสดงข้อความข้อผิดพลาดหากแอปขออนุญาตเข้าถึงการตั้งค่าที่จำกัดและผู้ใช้อุปกรณ์ให้อนุญาต การดำเนินการนี้จะบังคับปิดแอปดังกล่าวด้วยเช่นกัน |
รายการแบล็กลิสต์ แสดงแอปที่ไม่อนุญาตให้ใช้และจะย้ายเส้นทางผู้ใช้ไปยังหน้าจอหลักเมื่อมีการเปิดใช้แอปที่ไม่ได้รับอนุญาต
วิธีบล็อกแอปแบบเจาะจง ให้ค้นหาแอปใน Google Play Store โดยคลิกที่ไอคอน เรียกดู หรือป้อนชื่อและรายละเอียดแพคเกจ จากนั้นคลิก เพิ่มแอปพิมพ์ชื่อที่จำง่ายให้แอปในกล่องข้อความ ชื่อแอป และชื่อแพคเกจ Android ในกล่องข้อความ แพคเกจแอปตัวอย่างเช่น หากต้องการบล็อกแอป Gmail ให้พิมพ์: Gmail com.google.android.gm
ในการลบแอปจากรายการ ให้เปิดใช้งานช่องทำเครื่องหมายถัดจากชื่อของแอป แล้วคลิกไอคอน ลบ
เพื่อให้ผู้ใช้อุปกรณ์แทนที่การจำกัดแอปบนอุปกรณ์ คุณจะต้องตั้ง รหัสผ่านผู้ดูแลระบบไคลเอ็นต์อุปกรณ์อัจฉริยะ จาก เครื่องมือ > การตั้งค่าของระบบ ใน Avalancheหลังจากตั้งค่ารหัสผ่านและซิงค์อุปกรณ์แล้ว คุณจะสามารถป้อนรหัสลงในอุปกรณ์เพื่อปิดใช้งานการจำกัดแอปได้
หากต้องการปิดใช้งานข้อจำกัดของแอป ให้แก้ไขเพย์โหลดเดิม ปรับใช้เพย์โหลดอีกครั้ง แล้วซิงค์อุปกรณ์ที่ต้องการ
รายการไวท์ลิสต์ แสดงแอปที่อนุญาตและจะป้องกันไม่ให้แอปอื่นๆทั้งหมดเปิดขึ้น
หากคุณสร้าง ไวท์ลิสท์ คุณจะต้องเลือก แอปเริ่มต้น จากรายการแอปที่ได้รับอนุญาตโดยทั่วไปแล้วแอปเริ่มต้นคือตัวเปิดใช้แอปที่มีรายการแอปที่พร้อมใช้งานหลังจากปรับใช้เพย์โหลด ให้แตะปุ่ม เริ่มต้น บนอุปกรณ์เพื่อเปิดใช้แอปเริ่มต้นการกดปุ่มเริ่มต้นค้างไว้หรือนำทางไปที่แอปที่บล็อกจะแสดงหน้าต่างโต้ตอบที่มีรายการของแอปที่พร้อมใช้งาน
หากต้องการเพิ่มแอปแบบเจาะจงลงในไวท์ลิสท์ ให้ค้นหาแอปจากใน Google Play Store โดยการคลิกไอคอน เรียกดูและคุณยังสามารถเพิ่มแอปด้วยตัวเองได้ โดยการพิมพ์ชื่อที่จำง่ายของแอปลงในกล่องข้อความ ชื่อแอป และพิมพ์ชื่อแพคเกจ Android ลงในกล่องข้อความ เพคเกจแอปตัวอย่างเช่น หากต้องการเพิ่มแอป Gmail ให้พิมพ์: Gmail com.google.android.gm
ในการลบแอปจากรายการ ให้เปิดใช้งานช่องทำเครื่องหมายถัดจากชื่อของแอป แล้วคลิกไอคอน ลบ
เพื่อให้ผู้ใช้อุปกรณ์แทนที่การจำกัดแอปบนอุปกรณ์ คุณจะต้องตั้ง รหัสผ่านผู้ดูแลระบบไคลเอ็นต์อุปกรณ์อัจฉริยะ จาก เครื่องมือ > การตั้งค่าของระบบ ใน Avalancheหลังจากตั้งค่ารหัสผ่านและซิงค์อุปกรณ์แล้ว คุณจะสามารถป้อนรหัสลงในอุปกรณ์เพื่อปิดใช้งานการจำกัดแอปได้
หากต้องการปิดใช้งานข้อจำกัดของแอป ให้แก้ไขเพย์โหลดเดิม ปรับใช้เพย์โหลดอีกครั้ง แล้วซิงค์อุปกรณ์ที่ต้องการ
การปรับใช้ข้อจำกัดไวท์ลิสท์บนอุปกรณ์ Samsung SAFE จะเป็นการปิดใช้งานทั้งปุ่มโฮมแบบฮาร์ดและซอฟท์ และจะสร้างปุ่มที่ผู้ใช้สามารถกดเพื่อกลับไปยังแอปหน้าหลักได้
Android Enterprise
สามารถตั้งค่าให้อุปกรณ์ที่ได้รับเพย์โหลดข้อจำกัด ต้องใช้รหัสผ่านผู้ดูแลในการดำเนินการบางอย่างจากอุปกรณ์ เช่น ยกเลิกการลงทะเบียนหากต้องการตั้งค่ารหัสผ่านของผู้ดูแล รวมทั้งการสร้างหรือแก้ไขเพย์โหลดข้อจำกัดของ Android Enterprise ให้เลือก เปิดใช้งานการแทนที่ของผู้ดูแล จากนั้นให้ป้อนรหัสผ่านขณะพยายามดำเนินการที่ถูกจำกัดไว้ ผู้ใช้อุปกรณ์จะได้รับข้อความแจ้งให้ป้อนรหัสผ่านของผู้ดูแลจะต้องใช้รหัสผ่านของผู้ดูแลเพื่อปิดใช้งานโหมดอุปกรณ์เฉพาะงานบนอุปกรณ์ชั่วคราว
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหมดอุปกรณ์เฉพาะงานได้ที่ โหมดอุปกรณ์เฉพาะงาน (ล็อกงาน)
ป้องกันการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงาน |
การป้องกันการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงาน จะต้องลงชื่อเข้าใช้บนอุปกรณ์ด้วยบัญชีผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตภายหลังการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงานบัญชีผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาต คือบัญชีที่เคยอยู่บนอุปกรณ์ก่อนทำการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงานการใช้บัญชีผู้ใช้ในองค์กรบนอุปกรณ์ที่มีการป้องกันการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงาน จะเป็นการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งบนอุปกรณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะยังคงสามารถควบคุมอุปกรณ์ได้ แม้ภายหลังการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงานป้องกันการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงาน จะถูกเปิดใช้งานไว้ตามค่าเริ่มต้นเลือกตัวเลือกนี้เพื่อปิดใช้งานไว้ |
การรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงาน จากแอปการตั้งค่า |
ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้สั่งรีเซ็ตอุปกรณ์กลับเป็นค่าจากโรงงาน ผ่านแอปการตั้งค่า |
ปิดใช้งานสมาร์ทล็อก |
ปิดใช้งานตัวเลือก Google Smart Lock รวมถึงคงสถานะปลดล็อกไว้ ขณะอยู่ในตำแหน่งที่เชื่อถือได้ หรือขณะจับคู่กับอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ |
บล็อกการถอนการติดตั้งแอปที่มีการจัดการ |
ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถอนการติดตั้งแอปที่มีการจัดการซึ่งถูกพุชไปยังอุปกรณ์ |
ปิดใช้งานกล้องคีย์การ์ด |
ปิดใช้งานการเปิดกล้องจากหน้าจอล็อก |
ปิดใช้งานการเพิ่มบัญชีผู้ใช้ Google |
ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เพิ่มบัญชีผู้ใช้ Google ส่วนบุคคลลงในอุปกรณ์จะต้องตั้งค่าข้อจำกัดนี้ในระหว่างการเตรียมใช้งาน เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะไม่เพิ่มบัญชีผู้ใช้ส่วนบุคคลก่อนที่จะมีการกำหนดข้อจำกัดไว้การตั้งค่าข้อจำกัดนี้จะไม่ลบบัญชีผู้ใช้ที่อยู่บนอุปกรณ์อยู่แล้ว |
เปิดใช้งานโหมดอุปกรณ์เฉพาะ (โหมดล็อกงาน) |
สั่งอุปกรณ์ที่มีการจัดการอย่างสมบูรณ์เข้าสู่โหมดล็อกงานโหมดนี้จะล็อกอุปกรณ์ไว้กับ launchpad ที่มีอยู่ในตัวเปิดใช้งานของ Android Enterpriseเฉพาะแอปที่อยู่ในไวท์ลิสท์ในเพย์โหลดนี้เท่านั้น ที่จะสามารถเข้าใช้งานได้ผ่าน Launchpad เปิดใช้งานข้อมูลระบบในแถบสถานะ แสดงเวลา ระดับแบตเตอรี่ และข้อมูล Wi-Fi ในแถบสถานะ |
แอปที่ขึ้นไวท์ลิสต์ |
สร้างไวท์ลิสต์เพื่อล็อกอุปกรณ์เข้ากับแอปที่ผ่านการอนุมัติแอปในรายการจะปรากฏขึ้นใน launchpad ของตัวเปิดใช้งาน หากต้องการเพิ่มแอปแบบเจาะจงลงในไวท์ลิสท์ ให้ค้นหาแอปจากใน Google Play Store โดยการคลิกไอคอน เรียกดูและคุณยังสามารถเพิ่มแอปด้วยตัวเองได้ โดยการพิมพ์ชื่อที่จำง่ายของแอปลงในฟิลด์ ชื่อแอป และพิมพ์ชื่อแพคเกจ Android ลงในฟิลด์ แพคเกจแอปตัวอย่างเช่น หากต้องการเพิ่มแอป Gmail ให้พิมพ์: Gmail com.google.android.gm |
โหมดอุปกรณ์ที่มีการจัดการอย่างสมบูรณ์
ป้องกันการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงาน |
การป้องกันการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงาน จะต้องลงชื่อเข้าใช้บนอุปกรณ์ด้วยบัญชีผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตภายหลังการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงานบัญชีผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาต คือบัญชีที่เคยอยู่บนอุปกรณ์ก่อนทำการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงานการใช้บัญชีผู้ใช้ในองค์กรบนอุปกรณ์ที่มีการป้องกันการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงาน จะเป็นการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งบนอุปกรณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะยังคงสามารถควบคุมอุปกรณ์ได้ แม้ภายหลังการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงานป้องกันการรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงาน จะถูกเปิดใช้งานไว้ตามค่าเริ่มต้นเลือกตัวเลือกนี้เพื่อปิดใช้งานไว้ |
การรีเซ็ตกลับเป็นค่าจากโรงงาน จากแอปการตั้งค่า |
ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้สั่งรีเซ็ตอุปกรณ์กลับเป็นค่าจากโรงงาน ผ่านแอปการตั้งค่า |
ปิดใช้งานสมาร์ทล็อก |
ปิดใช้งานตัวเลือก Google Smart Lock รวมถึงคงสถานะปลดล็อกไว้ ขณะอยู่ในตำแหน่งที่เชื่อถือได้ หรือขณะจับคู่กับอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ |
บล็อกการถอนการติดตั้งแอปที่มีการจัดการ |
ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถอนการติดตั้งแอปที่ติดตั้งไว้จาก Play Store ที่มีการจัดการโดยองค์กร |
ปิดใช้งานกล้องคีย์การ์ด |
ปิดใช้งานการเปิดกล้องจากหน้าจอล็อก |
ปิดใช้งานการเพิ่มบัญชีผู้ใช้ Google |
ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เข้าสู่ระบบแอปองค์กรด้วยบัญชีผู้ใช้ส่วนบุคคลจะต้องตั้งค่าข้อจำกัดนี้ในระหว่างการเตรียมใช้งาน เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะไม่เพิ่มบัญชีผู้ใช้ส่วนบุคคลการตั้งค่าข้อจำกัดนี้จะไม่ลบบัญชีผู้ใช้ที่อยู่บนอุปกรณ์อยู่แล้ว |
iOS
อนุญาตการติดตั้งแอพพลิเคชัน |
อนุญาตให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปการเอาเครื่องหมายออกจากตัวเลือกนี้จะไม่ได้ทำให้ผู้ใช้ลบแอปออกจากอุปกรณ์ไม่ได้Avalanche ไม่สามารถป้องกันการลบแอปในระดับอุปกรณ์ได้ |
อนุญาตการใช้งานกล้อง |
อนุญาตให้ผู้ใช้เรียกใช้แอพพลิเคชันกล้อง |
อนุญาต FaceTime |
อนุญาตให้ผู้ใช้วางหรือรับสาย FaceTime |
อนุญาตการถ่ายภาพหน้าจอ |
อนุญาตให้ผู้ใช้บันทึกสกรีนช็อตของจอแสดงผล |
อนุญาตให้เชื่อมข้อมูลอัตโนมัติระหว่างการโรมมิ่ง |
อนุญาตให้อุปกรณ์ซิงค์บัญชีผู้ใช้โดยอัตโนมัติ แม้ขณะที่อุปกรณ์กำลังโรมมิง |
อนุญาต Siri |
อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้ Siri คำสั่งด้วยเสียง หรือป้อนตามคำบอก |
อนุญาต Siri เมื่อล็อก |
อนุญาตผู้ใช้ให้ใช้ Siri ได้โดยไม่ต้องป้อนรหัสยืนยันเมื่อล็อกอุปกรณ์ |
อนุญาตให้ Siri สอบถามด้วยเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างเอง (ภายใต้การควบคุมเท่านั้น) |
อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงเนื้อหาใน Siri ที่เพิ่มโดยผู้ใช้รายอื่น |
อนุญาตการเรียกเลขหมายด้วยเสียง |
อนุญาตให้ผู้ใช้เรียกเลขหมายโดยใช้คำสั่งด้วยเสียง |
อนุญาต Passbook ขณะล็อกอุปกรณ์ |
อนุญาตให้อุปกรณ์แสดงการแจ้งเตือน Passbook ขณะล็อกอุปกรณ์ |
อนุญาตการซื้อในแอพพลิเคชัน |
อนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อผ่านแอพพลิเคชันที่ติดตั้งแล้ว |
บังคับให้ผู้ใช้ป้อนรหัสผ่านสำหรับการซื้อทั้งหมด |
บังคับให้ผู้ใช้ป้อนรหัสผ่านบัญชีผู้ใช้ iTunes Store ของตัวเองในแต่ละครั้งที่ทำการซื้อ |
อนุญาตการเล่นเกมส์สำหรับผู้เล่นหลายคน |
อนุญาตให้ผู้ใช้เล่นเกมส์สำหรับผู้เล่นหลายคนใน Game Center |
อนุญาตการเพิ่มเพื่อนใน Game Center |
อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มเพื่อนใน Game Center |
อนุญาตศูนย์ควบคุมเมื่อล็อกอยู่ |
อนุญาตให้ผู้ใช้กวาดขึ้นเพื่อดูศูนย์ควบคุมแม้เมื่ออุปกรณ์ล็อกอยู่ |
อนุญาตมุมมองการแจ้งเตือนเมื่อล็อกอยู่ |
อนุญาตให้ผู้ใช้ดูการแจ้งเตือนแม้เมื่ออุปกรณ์ล็อกอยู่ |
อนุญาตมุมมองวันนี้เมื่อล็อกอยู่ |
อนุญาตให้ผู้ใช้กวาดลงเพื่อดูมุมมองวันนี้แม้เมื่ออุปกรณ์ล็อกอยู่ |
อนุญาต iBooks Store |
อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึง iBooks Store |
อนุญาตการใช้งาน AirDrop |
อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึง AirDrop |
อนุญาตการเปลี่ยนแปลงบัญชี |
อนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าบัญชี |
อนุญาตการใช้งานข้อมูลเซลลูลาร์สำหรับแอพฯ |
อนุญาตแอพฯ บนอุปกรณ์ให้ใช้งานการเชื่อมต่อข้อมูลเซลลูลาร์ |
อนุญาตการใช้ iTunes Store |
อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึง iTunes Store |
อนญาตการใช้ YouTube |
อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดแอพพลิเคชัน YouTube |
อนุญาตการใช้งาน Google Search |
อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้ Google Search |
อนุญาตเว็บเบราว์เซอร์ |
อนุญาตให้ผู้ใช้เรียกใช้แอปพลิเคชัน Safariเมื่อปิดใช้งานตัวเลือกนี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเรียกใช้ Safari ได้ แต่จะยังสามารถเรียกใช้เว็บเบราว์เซอร์อื่นๆ ได้ เช่น Chrome |
เปิดใช้งานการเติมโดยอัตโนมัติ |
อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดคุณลักษณะการเติมข้อความอัตโนมัติของ Safari |
จำกัดการติดตามโฆษณา |
ป้องกันไม่ให้ ID ของอุปกรณ์ถูกใช้งานสำหรับการติดตามโฆษณา |
บังคับให้แจ้งเตือนการหลอกลวง |
เมื่อผู้ใช้เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่หลอกลวงหรือเป็นอันตราย Safari จะแสดงคำเตือน |
อนุญาต JavaScript |
อนุญาตหน้าเว็บที่ผู้ใช้เข้าถึงโดยใช้ Safari ในการเรียกใช้ JavaScript |
ปิดกั้นป๊อปอัพ |
ตั้งค่า Safari ให้ปิดกั้นข้อความป๊อปอัพ |
ยอมรับคุกกี้ |
อนุญาต Safari ให้ยอมรับคุกกี้ทั้งหมด ปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมด หรือยอมรับคุกกี้เฉพาะจากไซต์ที่เข้าถึงโดยตรงเท่านั้น |
อนุญาตการเปลี่ยนแปลงไปยัง ค้นหาเพื่อนของฉัน (ภายใต้การควบคุมเท่านั้น) |
อนุญาตแอพพลิเคชันให้เข้าถึง ค้นหาเพื่อนของฉัน |
อนุญาตเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม |
อนุญาตให้ผู้ใช้มองเห็นเนื้อหาเพลงหรือวิดีโอที่ไม่เหมาะสมใน iTunes Storeเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมจะระบุโดยผู้ให้บริการเนื้อหา |
การจัดอันดับขอบเขต |
ขอบเขตสื่อที่มีระบบการจัดอันดับที่อุปกรณ์ควรใช้ในการอนุญาตเนื้อหา |
การจัดอันดับเนื้อหาที่อนุญาต |
ภาพยนตร์ระดับของเนื้อหาที่อนุญาตสำหรับภาพยนตร์ รายการทีวีระดับของเนื้อหาที่อนุญาตสำหรับรายการทีวี แอปพระดับของเนื้อหาที่อนุญาตสำหรับแอป |
โหมดจัดแสดง (อุปกรณ์ที่ควบคุมเท่านั้น)
เปิดใช้งานโหมดคีออส |
เมื่อเปิดใช้งานโหมดคีออส อุปกรณ์จะเปิดใช้แอปที่ระบุเท่านั้นและจะบล็อกแอปอื่นๆหากต้องการระบุแอปในโหมดคีออส ให้ใช้ Apple ID ของแอปหากต้องการออกจากโหมดคีออส ผู้ดูแลระบบจะต้องแก้ไขเพย์โหลดเพื่อปิดโหมดคีออส แล้วอัปเดตอุปกรณ์โหมดคีออสจะพร้อมใช้งานในอุปกรณ์ที่อยู่โหมดควบคุมเท่านั้นสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูเอกสาร Apple ของคุณ |
ปิดใช้งานการล็อกอัตโนมัติ |
ป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ล็อกอัตโนมัติ |
ปิดใช้งานการหมุนอุปกรณ์ |
ปิดใช้งานไม่ให้หน้าจอเปลี่ยนแนวเมื่อหมุนอุปกรณ์ |
ปิดใช้งานสวิตซ์เสียงเตือน |
ปิดใช้งานการทำงานใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสวิตซ์เสียงเตือน |
ปิดใช้งานปุ่มพัก/ปลุก |
ปิดใช้งานการทำงานใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปุ่มพัก/ปลุก |
ปิดใช้งานคุณสมบัติสัมผัส |
ปิดใช้งานคุณสมบัติการทำงานสัมผัสของหน้าจอ |
ปิดใช้งานปุ่มความดังเสียง |
ปิดใช้งานการทำงานใด ๆ ของปุ่มความดังเสียง |
อนุญาต Assistive Touch |
อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้งานคุณสมบัติ Assistive Touch เพื่อทำให้อุปกรณ์สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นตัวเลือกนี้มีไว้สำหรับผู้ใช้ที่มีปัญหาในการแตะหน้าจอหรือกดปุ่ม |
อนุญาตการปรับ Assistive Touch |
อนุญาตให้ผู้ใช้กำหนดค่าตัวเลือก Assistive Touch |
อนุญาตการสลับสี |
อนุญาตให้ผู้ใช้สลับสีบนหน้าจอ |
อนุญาตให้ผู้ใช้ปรับการสลับสี |
อนุญาตให้ผู้ใช้กำหนดค่าตัวเลือกการสลับสี |
อนุญาตเสียงโมโน |
อนุญาตให้ผู้ใช้สลับช่องสัญญาณออกเสียงเป็นโมโน |
อนุญาตการออกเสียงส่วนที่เลือก |
อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกข้อความและใช้คุณสมบัติการออกเสียงส่วนที่เลือกสำหรับการแปลงข้อความเป็นเสียงพูด |
อนุญาต VoiceOver |
อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้งานคุณสมบัติ VoiceOver เพื่อทำให้อุปกรณ์สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นตัวเลือกนี้มีไว้สำหรับผู้ใช้ที่จำเป็นต้องใช้การนำเสนอวัสดุหรือเมนูหน้าจอที่มีเสียง |
อนุญาตให้ผู้ใช้ปรับ VoiceOver |
อนุญาตให้ผู้ใช้กำหนดค่าตัวเลือก VoiceOver |
อนุญาตการซูม |
อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้งานคุณสมบัติการซูม |
อนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนการซูม |
อนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการซูม |
อนุญาต App ID ให้ทำงานด้วยตัวเอง |
อนุญาตให้แอป ซึ่งระบุตามบันเดิล ID เข้าสู่ซิงเกิลแอปโหมดได้ ตัวเลือกนี้จะใช้ในกรณีที่คุณมีแอปที่สามารถเข้าสู่โหมดแอปเดี่ยวได้เท่านั้นAvalanche จะไม่ทำให้แอปเข้าสู่โหมดแอปเดี่ยว แต่จะเพียงอนุญาตให้แอปทำการดำเนินการดังกล่าวได้เท่านั้น |
อนุญาตการสำรองข้อมูล |
อนุญาตให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลอุปกรณ์โดยใช้ iCloud |
อนุญาตการซิงโครไนซ์เอกสาร |
อนุญาตให้ผู้ใช้จัดเก็บเอกสารใน iCloud |
อนุญาตการกระจายรูปภาพ |
อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้งานการสตรีมรูปภาพหากการสตรีมรูปภาพถูกปิดใช้งานหลังจากที่ผู้ใช้อุปกรณ์ได้แชร์รูปภาพโดยใช้การสตรีมรูปภาพ รูปภาพที่แชร์แล้วจะถูกลบออก |
อนุญาตการกระจายภาพที่แบ่งปัน |
อนุญาตให้ผู้ใช้แบ่งปันการกระจายภาพของตน และดูการกระจายภาพของผู้อื่น |
อนุญาตการปลดล็อกโดย Touch ID |
อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้งาน Touch ID เพื่อปลดล็อกอุปกรณ์ |
อนุญาตการจับคู่โฮสต์ |
อนุญาตให้อุปกรณ์จับคู่กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่ไม่ใช่เครื่องที่ใช้เพื่อตั้งค่าอุปกรณ์ให้อยู่ในโหมดควบคุม |
อนุญาตให้ส่งการวินิจฉัยข้อมูลไปยัง Apple |
อนุญาตให้อุปกรณ์ส่งการวินิจฉัยข้อมูลไปยัง Apple |
อนุญาตให้ผู้ใช้ยอมรับใบรับรองที่ไม่น่าเชื่อถือ |
อนุญาตให้ผู้ใช้ยอมรับใบรับรอง TLS ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้การตั้งค่านี้จะบังคับใช้กับ Safari, เมล, รายชื่อ และปฏิทิน |
อนุญาตการเปิดแอพ/บัญชีจากที่จัดการไปยังที่ไม่ได้จัดการ |
อนุญาตให้ผู้ใช้สลับไปยังแอปพลิเคชันที่ไม่ได้รับการบริหารจัดการหรือบัญชีจากแอปหรือบัญชีที่ได้รับการบริหารจัดการตัวอย่างเช่น หากแอปอีเมลได้รับการจัดการแต่แอปเบราว์เซอร์ไม่ได้รับการจัดการ ผู้ใช้จะได้รับอนุญาตให้คลิกบนลิงก์ในอีเมลที่เปิดใช้งานเบราว์เซอร์ได้ |
อนุญาตการเปิดแอพ/บัญชีจากที่ไม่ได้จัดการไปยังที่ได้รับการจัดการ |
อนุญาตให้ผู้ใช้สลับไปยังแอปพลิเคชันที่ได้รับการบริหารจัดการหรือแอปหรือบัญชีที่ไม่ได้รับการบริหารจัดการตัวอย่างเช่น หากแอปอีเมลได้รับการจัดการแต่แอปเบราว์เซอร์ไม่ได้รับการจัดการ ผู้ใช้จะได้รับอนุญาตให้คลิกบนลิงก์ในหน้าเว็บที่เปิดใช้งานแอปอีเมล |
อนุญาตการอัพเดต PKI แบบ Over-The-Air |
อนุญาตการอัปเดตโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสาธารณะหากตัวเลือกนี้ไม่ได้เปิดใช้งาน คุณอาจประสบปัญหากับแอปพลิเคชันใดๆ ที่ต้องพึ่งพาใบรับรอง ซึ่งรวมถึงเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ต |
อนุญาตการติดต่อในระหว่างติดตั้งโปรไฟล์กำหนดค่า (ภายใต้การควบคุมเท่านั้น) |
อนุญาตให้ผู้ดูแลระบบส่งโปรไฟล์การกำหนดค่าแบบไม่มีการแจ้งโดยผู้ใช้ไม่ได้รับการติดต่อ |
บังคับให้สำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส |
บังคับให้ผู้ใช้เข้ารหัสข้อมูลสำรองใด ๆ โดยใช้ iTunes |
สำหรับตัวเลือกบางส่วนในเพย์โหลดการจำกัดสำหรับ iOS อุปกรณ์จะต้องได้รับการกำหนดค่าด้วยตัวเองให้อยู่ในโหมดควบคุมโดยใช้ Apple Configuratorสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหมดควบคุม โปรดดูเอกสาร Apple ของคุณ